หน้าเว็บ

2556/04/11

วางแผนการคลอด



วางแผนการคลอด......
การวางแผนการคลอด ขอแบ่งเป็น 4 ช่วงหลัก ๆ นะค่ะ

ช่วงตั้งครรภ์ 

          คุณพ่อกับคุณแม่ต้องรีบทำการบ้านแล้วนะค่ะว่าจะเลือกหมอท่านใด โรงพยาบาลไหน ที่จะฝากครรภ์และดูและเราในช่วงตั้งครรภ์จนทำคลอด บอกได้เลยค่ะว่าเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญมากเลยค่ะ
เพราะตลอด 40 สัปดาห์ ร่างกายของคุณแม่จะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปตอลด จนทำให้คุณพ่อคุณแม่
เป็นกังวล และเกิดคำถามเยอะแยะไปหมดเลยค่ะ

ช่วงเจ็บครรภ์

          การเจ็บครรภ์จะแบ่งได้ 2 ช่วง คือ การเจ็บครรภ์เตือนหรือการเจ็บครรภ์หลอกและการเจ็บครรภ์คลอด คุณแม่ที่เคยตั้งครรภ์แล้วคงไม่ใช่เรื่องยากใช่ไหมค่ะกับการแยกระหว่างเจ็บครรภ์เตือนกับเจ็บครรภ์คลอดแต่สำหรับคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ลูกคนแรกคงมีปัญหากับการแยกการเจ็บครรภ์ว่าอันไหนเจ็บเตือนอันไหนเจ็บคลอด เรามาดูกันค่ะว่าการเจ็บครรภ์ทั้งสองแบบนี้ต่างกันอย่างไรและควรไปโรงพยาบาลเมื่อใด

-เจ็บครรภ์เตือน เป็นสัญญาณเตือนว่าลูกน้อยของคุณแม่ใกล้ลือมตาดูโลกแล้ว คุณแม่จะมีอาการปวดหน่วงที่บริเวณหัวหน่าว ท้องแข็งครั้งละประมาณ 1-2 นาที เนื่องจากมีการบีบตัวของมดลูก คุณแม่จะปวดเป็นพัก ๆ ไม่ถี่ พอคุณแม่เปลี่ยนท่านั่งหรือท่านอนอาการก็จะหายไปค่ะ

-เจ็บครรภ์คลอด คุณแม่จะมีอาการคล้าย ๆ กับเจ็บเตือนแต่ระยะเวลาการเจ็บจะนานขึ้นเรื่อย ๆ
จาก 1-2 นาที เป็น 3 4 5 นาที และจะเริ่มเจ็บถี่ขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเปลี่ยนที่นั่งหรือที่นอนก็ไม่หาย
และถ้ามีมูกใส ๆ หรือมูกเลือดออกมาคุณแม่ควรรีบไปโรงพยาบาลได้เลยค่ะ นั้นเป็นสัญญาณที่ดีว่าคุณแม่กำลังจะได้เห็นหน้าลูกน้อยแล้วค่ะ

ช่วงคลอด

          เป็นช่วงเวลาที่คุณพ่อคุณแม่รอคอยได้สิ้นสุดแล้วค่ะเมื่อลูกน้อยกำลังจะลืมตาดูโลกในอีกไม่กี่ชั่วโมงนี้ คุณแม่อย่ามั่วตื่นเต้นหรือกลัวจนลืมว่าคุณแม่จะเลือกคลอดแบบไหนจะผ่าหรือคลอดเอง

- การผ่าคลอด คือ ผ่าทางหน้าท้อง โดยคุณหมอจะทำการบล็อกหลังคุณแม่คือการฉี่ยาชาเข้าที่ข้อต่อของกระดูกสันหลัง เพื่อระงับความรู้สึกระหว่างผ่าตัด มั่นใจได้ว่าค่ะว่าลูกน้อยของคุณแม่จะไม่ได้รับยาแต่อย่างใดปลอดภัยทั้งแม่ทั้งลูกค่ะ และตัวคุณแม่เองก็ไม่ต้องกังวลกับการล้างแผลนะค่ะ เพราะการแพทย์สมัยนี้ก้าวหน้าแล้วค่ะ คุณแม่จะเลือกใช้กาวปิดแผลก็ได้ค่ะ เป็นเจลทาหลังจากเย็บแผลเสร็จ พอแห้งก็จะเป็นแผ่นฟิลม์ใสอยู่ได้ประมาณ 1 อาทิตย์ คุณแม่สามารถอาบน้ำได้ทันทีที่คุณหมออนุญาตให้เคลื่อนไหวค่ะ แต่อาจต้องจ่ายแพงกว่าเดิมนิดหน่อยนะค่ะ

- การคลอดเองหรือคลอดธรรมชาติ คือ การคลอดทางช่องคลอด โดยคุณหมอจะตัดฝีเย็บ เพื่อขยายช่องคลอดให้ลูกน้อยผ่านออกมาได้ หลังจากนั้นคุณหมอก็จะทำการเย็บซ่อมแซมให้ค่ะ
แต่อย่างไรก็ตามการคลอดทั้งสองวิธีนี้คุณพ่อสามารถอยู่ให้กำลังใจคุณแม่ตลอดการคลอดได้ค่ะ

ช่วงหลังคลอด

           อย่างที่กล่าวมาแล้วในช่วงคลอดว่าการคลอดมี 2 วิธี การดูแลในช่วงหลังคลอดก็แตกต่างกันไปค่ะ

- การคลอดเองหรือการคลอดธรรมชาติ
          การคลอดเองหรือการคลอดธรรมฃาติ นั้นเด็กออกทางช่องคลอด คุณแม่ก็จะมีแผลแค่ฝีเย็บ คุณแม่สามารถเคลื่อนไหวได้ทันทีหลังคลอด และสามารถอยู่ไฟได้ทันทีส่วนแผลฝีเย็บนั้นจะดูแลโดยการเช็ดทำความสะอาดด้วยน้ำอุ่น และซับให้แห้ง ในระยะที่พักฟื้นที่โรงพยาบาลคุณหมอจะอบแผลฝีเย็บด้วยไฟฟ้าหลังทำความสะอาดค่ะ แต่คุณแม่ก็ต้องพยายามเดินหรือเคลื่อนไหวบ่อย ๆ แต่ทำอย่างช้า ๆ เพื่อเป็นการขับน้ำควาปลาที่ยังคงตกค้างอยู่ในมดลูกนะค่ะ ส่วนแผลฝีเย็บก็จะหายภายใน 1-2 สัปดาห์ค่ะ

- การผ่าคลอด
          การผ่าคลอด เด็กออกทางหน้าท้องของคุณแม่ คุณแม่ก็จะมีแผลจากการผ่าตัด คือ แผลที่มดลูกและแผลทางหน้าท้อง ระยะเวลาการพักฟื้นก็จะยาวนานกว่าคลอดธรรมชาติ หลังจากการผ่าตัดคุณหมอก็จะงดน้ำงดอาหารและไม่ให้คุณแม่เคลื่อนไหวนอนหงายนิ่ง ๆ เป็นเวลา 24 ชั่วโมง แล้วหลังจากนั้นคุณหมอก็จะค่อย ๆ ให้คุณแม่จิบน้ำ และอนุญาตให้คุณแม่นอนตะแครง และเคลื่อนไหวตัวเมื่อคุณหมออนุญาต คุณแม่ต้องพยายามเดินถึงแม้ว่าจะเจ็บแผลแค่ไหนก็ตามเพื่อลดพังพืดแผลภายในมดลูก และขับน้ำคาวปลาที่ยังตกค้าง ส่วนของแผลของคุณแม่คุณหมอจะปิดแผลด้วยแผ่นฟิลม์พลาสติก(หรือถ้าคุณแม่ท่าใดใช้กาวปิดแผล)คุณแม่สามารถอาบน้ำได้ทันที และไม่ต้องล้างแผลเพียงแต่ต้องคอยดูว่าแผ่นฟิมล์หลุด หรือเปิดหรือเปล่าแค่นั้นค่ะ คุณแม่ที่ผ่าคลอดจึงไม่สามารถอยู่ไฟได้ทันที เพระไหมที่เย็บนั้นเป็นไมละลายการอยู่ไฟหรือทานน้ำร้อนจัดจะทำให้ไหมละลายเร็วกว่าที่ควร
คุณแม่จะอยู่ไฟได้หลังจากผ่านไป 1 เดือนแล้วค่ะ หรือไม่ก็ตามความเห็มสมควรของคุณหมอนะค่ะ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ประโยชน์ของผักกาดขาว

          ผักกาดขาวใครหลาย ๆ คนชอบทานแต่ถ้าถามว่ารู้ประโยชน์ที่แท้จริงหรือไม่นั้นคงตอบได้ยาก จริง ๆ แล้วผักกาดขาวมีสรรพคุณทางยาด้วย คุณแ...